กลุ่มนิสิตพลังสังคม เป็นกลุ่มนิสิตที่ก่อตัวขึ้นภายในภายหลังมรสุมใหญ่ของขบวนการนิสิตนักศึกษา คือความพยายามจะสลายอุดมการณ์ของขบวนการนิสิตนักศึกษาของรัฐ จนหลังปี พ.ศ. 2520 รัฐเริ่มที่จะผ่อนคลายความตรึงเครียดทางการเมือง การผ่อนคลายดังกล่าวเปิดโอกาสให้นิสิต นักศึกษา มีอิสระ มีสิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นต่อสังคมทั้งภายในและภายนอกมหาวิทยาลัย จากปัจจัยเหล่านี้เองทำให้ในเดือนมกราคม พ.ศ.2522 นิสิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ วิทยาเขตมหาสารคาม กลุ่มหนึ่ง ได้ริเริ่มที่จะจัดตั้งกลุ่มนิสิตขึ้นมาในนามกลุ่มนิสิตพลังสังคม เพื่อเป็นกลุ่มนิสิตในการสร้างสรรค์กิจกรรมแก่สังคม โดยแกนนำในการประสานงานเพื่อจัดตั้งกลุ่มนิสิตที่สำคัญมาจากสาขาสังคมศึกษา จัดตั้งเป็นกลุ่มนิสิตและได้เลือกให้ นายบุญคลุ้ม สังขศิลา เป็นประธานกลุ่มนิสิตคนแรกด้วยสโลแกนของกลุ่มนิสิตที่ว่า “ด้วยรักและศรัทธา”
การจัดตั้งกลุ่มนิสิตพลังสังคมขึ้นมาในปีนั้นถือเป็นการเปิดทางเลือกทางการเมืองของนิสิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ วิทยาเขตมหาสารคาม ซึ่งในขณะนั้นมีกลุ่มนิสิตชาวดินเพียงกลุ่มเดียว (กลุ่มนิสิตชาวดินจดทะเบียนกลุ่มนิสิตในปีการศึกษา 2521) โดยหลังจากกลุ่มนิสิตพลังสังคมได้รับการจัดตั้งจึงกลายเป็นคู่แข่งของกลุ่มนิสิตชาวดินตลอดมา และถือเป็นภารกิจของกลุ่มนิสิตพลังสังคมในฐานะผู้นำนิสิต กลุ่มนิสิตพลังสังคมสร้างมิติใหม่ทางกิจกรรม โดยการเป็นผู้นำและเป็นแบบอย่างการจัดกิจกรรมที่ไม่มีจำกัดเฉพาะในมหาวิทยาลัย ด้วยการออกทำกิจกรรมภายนอกคือสร้างค่ายพัฒนาชนบทที่มีลักษณะเช่นเดียวกับค่ายอาสาพัฒนาชนบท มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ซึ่งขณะนั้นเป็นค่ายใหญ่ของมหาวิทยาลัย ก่อนที่จะมีการจัดตั้งชมรมอาสาพัฒนาขึ้นมาในภายหลัง สาเหตุของการปรับปรุงรูปแบบกิจกรรมนิสิตนี้ เนื่องจากในขณะนั้นผ่านเหตุการณ์ทางการเมือง 6 ตุลาคม 2519 มาไม่นาน รัฐบาลโดยการควบคุมของ กอ.รมน. ขณะนั้นเน้นให้นิสิต นักศึกษา ทำกิจกรรมด้านบำเพ็ญประโยชน์มากกว่าด้านการเมืองเพื่อสลายความคิดทางการเมืองของกลุ่มนิสิตนักศึกษาให้น้อยลง โดยครั้งแรก กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) จัดเป็นค่ายอาสาพัฒนาพื้นที่ภาคใต้ รวมนิสิต นักศึกษา จากหลายสถาบันมาร่วมทำกิจกรรม
การดำเนินงานของกลุ่มนิสิตพลังสังคมในระยะแรกมีอุปสรรคปัญหาอยู่บ้าง โดยเฉพาะในปีการศึกษา 2527 เป็นปีที่กลุ่มนิสิตพลังสังคมได้รับเลือกตั้งให้เป็นคณะกรรมการบริหารองค์การนิสิต มีวิกฤติในกลุ่มนิสิตพลังสังคม อันเนื่องมาจากมาจากความเสื่อมศรัทธาและเกิดความรุนแรงถึงขั้นคณะกรรมการบริหารองค์การนิสิตลาออกทั้งชุดทำให้ขาดผู้นำ แต่กลุ่มนิสิตพลังสังคม โดยการนำของ นายประภาส ไชยมี ขณะนั้นกำลังศึกษาอยู่ชั้นปีที่ 1 (นิสิตรุ่นจามรี 3 อดีตประธานกลุ่มนิสิตพลังสังคม) สามารถกู้วิกฤติและเรียกศรัทธากลับมาให้กลุ่มนิสิตพลังสังคม ทำให้ดำเนินกิจกรรมทางการเมืองต่อไปได้ ซึ่งในวิกฤติครั้งนั้นจะเป็นบทเรียนอันดีแก่กลุ่มนิสิตพลังสังคม แล้วยังทำให้ก่อเกิดกลุ่มนิสิตใหม่ที่แยกออกจากกลุ่มนิสิตพลังสังคม คือกลุ่มนิสิตก้าวใหม่ นำโดย นายนิคม สมจิตร (นิสิตรุ่นเสือดาว 3 อดีตนายกองค์การนิสิต ปีการศึกษา 2528) กลุ่มนิสิตพลังสังคมดำเนินกิจกรรมทางด้านการเมือง กิจกรรมการช่วยเหลือ และจรรโลงสังคมมาโดยตลอด การที่กลุ่มนิสิตมีกิจกรรมช่วยเหลือและจรรโลงสังคมมากขึ้น จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้กลุ่มนิสิตพลังสังคมเริ่มปรับบทบาทและเปลี่ยนสโลแกนใหม่ของกลุ่มนิสิตเป็น “เพื่อมวลชน” และนำบทเพลงเพื่อมวลชน ที่มีเนื้อหาด้วยความมุ่งมั่นปลูกฝังให้สมาชิกกลุ่มนิสิตพลังสังคมตระหนักในหน้าที่ที่จะกระทำต่อมวลชน และตอกย้ำเจตนารมณ์อันดีงามต่อสังคม มาเป็นเพลงประจำกลุ่มนิสิตพลังสังคม
หลังจากที่มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ วิทยาเขตมหาสารคาม ได้ยกฐานะขึ้นเป็นมหาวิทยาลัยมหาสารคาม กลุ่มนิสิตพลังสังคมยังถือภารกิจสำคัญในการช่วยเหลือสังคมมาโดยตลอด และมีการปรับบทบาทของกลุ่มนิสิตอยู่ตลอดเวลา เพื่อให้เข้ากับยุคสมัยของการเปลี่ยนแปลงทางความคิด การดำเนินกิจกรรมเพื่อช่วยเหลือสังคมในรูปแบบค่ายพัฒนาชนบทก็ยังคงเป็นภารกิจที่กลุ่มนิสิตพลังสังคมยังคงสานต่ออยู่ กิจกรรมใหม่ ๆ ที่กลุ่มนิสิตพลังสังคมริเริ่มขึ้นล้วนแล้วแต่มีประโยชน์ต่อสังคมและชุมชน ดังเช่น การออกค่ายเพื่อจัดกิจกรรมสร้างจิตสำนึกในการอนุรักษ์และฟื้นฟูสิ่งแวดล้อม เช่น ค่ายเยาวชนพิทักษ์ไพร ซึ่งเป็นความคิดริเริ่มของ นายณัฐพงศ์ ฉลาดแย้ม นิสิตสาขาฟิสิกส์คณะศึกษาศาสตร์ (ปัจจุบันสำเร็จการศึกษาระดับดุษฎีบัณฑิตจาก มหาวิทยาลัยขอนแก่น) โครงการค่ายเยาวชนพิทักษ์ไพร จัดขึ้นครั้งแรกในปีการศึกษา 2541 ณ อุทยานแห่งชาติห้วยกุ่ม อำเภอเกษตรสมบูรณ์ จังหวัดชัยภูมิ ถือว่าเป็นกิจกรรมที่ได้รับความสนใจจากนิสิตมหาวิทยาลัยมหาสารคาม จนสามารถจัดกิจกรรมค่ายเยาวชนพิทักษ์ไพร สืบเนื่องต่อมาจนถึงครั้งที่ 22
ในปีการศึกษา 2546 การจัดกิจกรรมด้านวิชาการ เช่น โครงการโต้วาทีมหาวิทยาลัยมหาสารคาม ซึ่งจัดในปีการศึกษา 2543 เป็นครั้งแรกและจัดสืบเนื่องมาแล้ว 4 ครั้ง และยังมีโครงการค่ายสายธารปัญญาชน ซึ่งจัดขึ้นครั้งแรกในปีการศึกษา 2543 โดยการสร้างสนามกีฬา ณ โรงเรียนบ้านซำผักหนาม อำเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น และต่อเนื่องมาจนถึงปีที่ 16 ในปีการศึกษา 2562 ทุกกิจกรรมที่จัดขึ้นล้วนแล้วแต่เป็นการแสดงให้เห็นว่าพลังของนิสิตมหาวิทยาลัยมหาสารคาม ยังคงเต็มเปี่ยมและมีจิตอาสาต่อสังคม
พันธกิจของกลุ่มนิสิตพลังสังคมปัจจุบันที่สำคัญคือการลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นคณะกรรมการบริหารองค์การนิสิต มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ซึ่งโดยสรุปแล้วตั้งแต่ปี พ.ศ.2537 เป็นต้นมา กลุ่มนิสิตพลังสังคมได้รับความนิยมจากนิสิตและเป็นที่ไว้วางใจให้เป็นคณะกรรมการบริหารองค์การนิสิตมาโดยตลอด ดังวิสัยทัศน์ “มุ่งมั่น สร้างสรรค์ เพื่อมวลชน” ซึ่งเป็นสโลแกนที่กลุ่มนิสิตพลังสังคมใช้ในการหาเสียงในการเลือกตั้งคณะกรรมการบริหารองค์การนิสิต มวลนิสิตยังไว้วางใจกลุ่มนิสิตพลังสังคมอยู่โดยตลอด ซึ่งหากพิจารณาจากสถิติการเลือกตั้งในช่วงที่เป็นมหาวิทยาลัยมหาสารคาม ถือว่ากลุ่มนิสิตพลังสังคมได้รับความนิยมอย่างมาก เพราะกลุ่มนิสิตพลังสังคมสามารถชนะการเลือกตั้งและดำรงตำแหน่งคณะกรรมการบริหารองค์การนิสิต มาแล้วถึง 16 สมัย